กรณีศึกษาธุรกิจระดับโลก IKEA

กรณีศึกษา IKEA – จากธุรกิจเล็ก ๆ สู่เฟอร์นิเจอร์ที่ครองใจโลก

Table of Contents

ศึกษาธุรกิจระดับโลก IKEA

กรณีศึกษาธุรกิจระดับโลก IKEA – จากธุรกิจเล็ก ๆ ในสวีเดน สู่เฟอร์นิเจอร์ที่ครองใจโลก

 


 

IKEA

จากธุรกิจเล็ก ๆ ในสวีเดน สู่เฟอร์นิเจอร์ที่ครองใจโลก

1943

ปีก่อตั้งโดย Ingvar Kamprad ในวัย 17 ปี

17

อายุของผู้ก่อตั้งเมื่อเริ่มต้นธุรกิจ

$2.5B+

ยอดขายจากธุรกิจอาหารต่อปี

สามเสาหลักแห่งการปฏิวัติ

📦

การปฏิวัติแพ็กแบน

เปลี่ยนข้อจำกัดด้านการขนส่งให้เป็นความได้เปรียบทางการแข่งขัน ลดต้นทุนมหาศาล และสร้าง “IKEA Effect” ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับสินค้ามากขึ้น

🎨

Democratic Design

ปรัชญาการออกแบบที่ผสาน 5 หลักการสำคัญ คือ รูปแบบ, การใช้งาน, คุณภาพ, ความยั่งยืน และราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคน

meatballs

อาณาจักรอาหาร

เปลี่ยนร้านอาหารจากกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าให้กลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาล และเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นสวีเดนของแบรนด์

พลังแห่ง Democratic Design

IKEA สร้างสมดุลระหว่าง 5 องค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าไม่เพียงแต่สวยงามและใช้งานได้ดี แต่ยังยั่งยืนและมีราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้

ทำไมลูกค้าถึงมา IKEA?

ธุรกิจอาหารกลายเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดผู้คนให้มาที่สโตร์ โดยเกือบหนึ่งในสามของผู้เยี่ยมชมมาเพื่อรับประทานอาหารโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการขายเฟอร์นิเจอร์

กระบวนการปฏิวัติแพ็กแบน

นี่คือขั้นตอนที่เปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ จากแนวคิดสู่บ้านของลูกค้า ซึ่งช่วยลดต้นทุนและสร้างการมีส่วนร่วม

1

ออกแบบโดยคำนึงถึง
ขนาดแพ็กเกจ

2

ผลิตและบรรจุ
ในกล่องแบน

3

ขนส่งได้มากขึ้น
ลดต้นทุนและมลพิษ

4

ลูกค้านำกลับและ
ประกอบด้วยตนเอง

กลยุทธ์สู่ตลาดโลก: ปรับตัวเพื่อเติบโต

🇨🇳 ตลาดจีน

  • บริการประกอบ: ร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อให้บริการประกอบเฟอร์นิเจอร์ตามความนิยมของลูกค้า
  • ขนาดสินค้า: ปรับขนาดเฟอร์นิเจอร์ให้เล็กลงเพื่อให้เหมาะกับที่พักอาศัยในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด
  • ทำเลที่ตั้ง: เปิดร้านใกล้ระบบขนส่งสาธารณะเพื่อความสะดวกในการเดินทางของลูกค้าในเมืองใหญ่

🇮🇳 ตลาดอินเดีย

  • เมนูอาหาร: เพิ่มตัวเลือกเมนูมังสวิรัติและอาหารท้องถิ่นให้หลากหลายเพื่อตอบสนองรสนิยมและความเชื่อ
  • การจัดหาในท้องถิ่น: ตั้งเป้าจัดหาสินค้าจากผู้ผลิตในอินเดียถึง 50% ภายในปี 2030 เพื่อลดต้นทุนและสร้างความยืดหยุ่น
  • ราคาที่เข้าถึงได้: นำเสนอสินค้าจำนวนมากในราคาที่ต่ำกว่า 200 รูปี เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภควงกว้าง

อนาคตคือความยั่งยืน

ภายใต้กลยุทธ์ “People & Planet Positive” IKEA ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการเป็นธุรกิจหมุนเวียนและมีผลกระทบเชิงบวกต่อสภาพภูมิอากาศภายในปี 2030

IKEA เป็นมากกว่าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ แต่เป็นบทเรียนที่ทรงพลังของการทำธุรกิจที่เริ่มต้นจากความเรียบง่าย ใช้ความมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรม และปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อครองใจผู้คนทั่วโลก

 

จากธุรกิจเล็ก ๆ ในสวีเดน สู่เฟอร์นิเจอร์ที่ครองใจโลก: กรณีศึกษาเชิงลึกของ IKEA

 

 

ปฐมบทแห่งความเรียบง่าย: การปฏิวัติโลกแห่งการตกแต่งบ้านจาก Småland

 

IKEA แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกที่เข้าถึงหัวใจและบ้านเรือนของผู้คนนับล้าน มีจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายอย่างไม่น่าเชื่อจากเมืองเล็ก ๆ ในประเทศสวีเดน 1 เรื่องราวของแบรนด์นี้เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1943 โดยเด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่ชื่อว่า Ingvar Kamprad 1 เขาเติบโตใน Småland ดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องป่าหนาแน่นและพื้นดินที่เต็มไปด้วยก้อนหิน 1 ความยากลำบากทางภูมิประเทศนี้เองที่ได้หล่อหลอมให้ผู้คนในท้องถิ่นมีจิตวิญญาณแห่งความประหยัด ความมุ่งมั่น และความสามารถในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งค่านิยมเหล่านี้ได้กลายเป็นรากฐานและดีเอ็นเอที่สำคัญที่สุดของแบรนด์ 1

ในช่วงแรกเริ่ม IKEA ถูกจดทะเบียนเป็นบริษัทซื้อขายสินค้าทั่วไป โดย Ingvar Kamprad เริ่มจากการขายสินค้าจิปาถะ เช่น ปากกาและกระเป๋าสตางค์ 1 การผันตัวสู่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1948 ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของผลิตภัณฑ์ IKEA ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันดี 1 ชื่อแบรนด์ “IKEA” ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเรียก แต่เป็นการสะท้อนตัวตนและรากเหง้าของผู้ก่อตั้งอย่างภาคภูมิใจ โดยเป็นการนำตัวอักษรย่อของชื่อผู้ก่อตั้ง (Ingvar Kamprad) และชื่อฟาร์ม (Elmtaryd) กับหมู่บ้านใกล้เคียง (Agunnaryd) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขามาประกอบรวมกัน 4

 

รากฐานแห่งจิตวิญญาณ: ปรัชญาของ Ingvar Kamprad ที่หล่อหลอม IKEA

 

Ingvar Kamprad ไม่ใช่เพียงแค่นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ แต่เขาเป็นผู้ประกอบการที่ใช้ชีวิตสอดคล้องกับปรัชญาของตนเองอย่างแท้จริง 5 เขาเป็นที่รู้จักจากความเรียบง่ายและมัธยัสถ์อย่างยิ่ง แม้จะกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เขายังคงเลือกที่จะเดินทางโดยเครื่องบินชั้นประหยัด, เข้าพักในโรงแรมราคาประหยัด และขับรถยนต์ Volvo คันเก่า 5 พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนถึงค่านิยมจากบ้านเกิดใน Småland ที่เขาได้ยึดถือมาโดยตลอด 1 และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความมุ่งมั่นในค่านิยมหลักของแบรนด์นั่นคือ “ความประหยัด”

ปรัชญาธุรกิจหลักของ IKEA คือการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพดีเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อสร้างชีวิตประจำวันที่ดีขึ้นให้กับคนจำนวนมากที่สุด 1 Ingvar Kamprad ได้อธิบายแนวคิดนี้ไว้ในโบรชัวร์ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1948–1949 ว่า ราคาที่ย่อมเยาของ IKEA นั้นเป็นผลมาจากผลประกอบการที่สูง การจัดส่งสินค้าโดยตรงจากโรงงาน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำมาก 1 ซึ่งแนวคิดนี้ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรมาจนถึงปัจจุบัน

การที่ Ingvar Kamprad เป็นบุคคลที่ยึดมั่นในค่านิยมของตัวเองอย่างเหนียวแน่นได้นำไปสู่การตัดสินใจเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญในช่วงต้นทศวรรษ 1980s 1 เขาเล็งเห็นว่าเพื่อรักษาความเป็นอิสระและวิสัยทัศน์ทางธุรกิจในระยะยาวของแบรนด์ให้มี “ชีวิตนิรันดร์” เขาจึงได้แยกความเป็นเจ้าของธุรกิจค้าปลีกออกจากแนวคิดและแบรนด์ IKEA 1 ด้วยเหตุนี้จึงมีการจัดตั้งโครงสร้างการถือครองที่ซับซ้อนผ่านมูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศเนเธอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์ 6 การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นว่า การใช้ชีวิตส่วนตัวที่เรียบง่ายและมุ่งมั่นในคุณค่าจากบ้านเกิดของผู้ก่อตั้ง ไม่ใช่เพียงแค่คุณลักษณะนิสัยส่วนบุคคล แต่กลับถูกสถาปนาให้กลายเป็นโครงสร้างองค์กรระดับโลกที่มีความแข็งแกร่งและได้รับการปกป้องจากแรงกดดันภายนอกอย่างนักลงทุนหรือตลาดหุ้น การกระทำในระดับบุคคลจึงถูกยกระดับให้เป็นรากฐานเชิงกลยุทธ์ที่มั่นคงของบริษัท

 

สามเสาหลักแห่งการปฏิวัติ: โมเดลธุรกิจที่แตกต่างและทรงพลัง

 

ความสำเร็จของ IKEA ไม่ได้เกิดจากการขายเฟอร์นิเจอร์เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากนวัตกรรมโมเดลธุรกิจที่ถูกสร้างขึ้นบนเสาหลักสามประการที่ทำงานประสานกันอย่างลงตัว

 

เสาที่ 1: การปฏิวัติแพ็กแบน (The Flat-Pack Revolution)

 

แม้ว่า IKEA จะไม่ได้เป็นผู้คิดค้นเฟอร์นิเจอร์แพ็กแบน (Flat-pack) เป็นรายแรก 11 แต่ก็เป็นผู้นำแนวคิดนี้มาปฏิวัติวงการและทำให้มันกลายเป็นแก่นของโมเดลธุรกิจ 11 จุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้มาจากการที่ Ingvar Kamprad ต้องเผชิญกับความยุ่งยากในการขนส่งสินค้าทางไปรษณีย์ ทั้งในเรื่องต้นทุนที่สูงและความเสียหายของสินค้าโดยเฉพาะโต๊ะ 11 จนกระทั่งเขาได้รับแรงบันดาลใจจากซัพพลายเออร์รายหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงวิธีถอดขาโต๊ะออกเพื่อลดขนาด ซึ่งช่วยให้การขนส่งง่ายขึ้น 11 จากจุดเล็ก ๆ นี้ IKEA ได้นำแนวคิดแพ็กแบนมาพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นกลไกสำคัญของธุรกิจ 11

การใช้แพ็กแบนช่วยให้บริษัทลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล เนื่องจากสามารถบรรจุสินค้าได้มากขึ้นในรถบรรทุกและตู้คอนเทนเนอร์ ส่งผลให้ลดจำนวนเที่ยวในการขนส่งและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน 11 ที่สำคัญกว่านั้นคือ IKEA ไม่ได้มองว่าแพ็กแบนเป็นเพียงแค่วิธีการขนส่ง แต่ได้ผสานมันเข้ากับกระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์ 11 นักออกแบบของ IKEA จะคำนึงถึงขนาดของพาเลทมาตรฐาน (120×80 ซม.) ตั้งแต่ในขั้นตอนการวาดแบบ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกชิ้นส่วนจะถูกจัดวางอย่างคุ้มค่าที่สุด 11 การคิดเชิงระบบเช่นนี้ได้เปลี่ยนข้อจำกัดด้านการขนส่งให้กลายเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืน

นอกจากประโยชน์ด้านต้นทุนแล้ว โมเดลแพ็กแบนยังสร้างประสบการณ์ร่วมที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้า 10 การที่ลูกค้าต้องประกอบเฟอร์นิเจอร์ด้วยตัวเองไม่ได้เป็นเพียงแค่การลดภาระด้านโลจิสติกส์ของบริษัทเท่านั้น แต่ยังสร้างปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “The IKEA Effect” 10 การลงมือลงแรงประกอบสิ่งของทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นเจ้าของและผูกพันกับผลิตภัณฑ์นั้นมากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีสร้างคุณค่าที่ลึกซึ้งกว่าแค่การซื้อของสำเร็จรูปทั่วไป

 

เสาที่ 2: พลังแห่ง Democratic Design: การออกแบบเพื่อคนจำนวนมาก

 

ปรัชญา Democratic Design คือหลักการสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของ IKEA โดยประกอบด้วย 5 หลักการที่เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก ได้แก่ รูปแบบ (Form), การใช้งาน (Function), คุณภาพ (Quality), ความยั่งยืน (Sustainability) และราคาที่เข้าถึงได้ (Low Price) 8

กระบวนการออกแบบของ IKEA ไม่ได้เริ่มต้นจากความสวยงามของรูปลักษณ์ แต่กลับเริ่มต้นด้วยการกำหนด “ราคา” ที่ต้องการจะขาย 14 ซึ่งเป็นแนวคิดที่ท้าทายให้นักออกแบบต้องคิดนอกกรอบ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ทุกหลักการภายใต้ข้อจำกัดด้านต้นทุนที่ชัดเจน 14 กระบวนการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องประชุม แต่เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจชีวิตของผู้คนทั่วโลกผ่านการเยี่ยมบ้านหลายพันครั้งในแต่ละปี เพื่อค้นหาปัญหาและความต้องการที่แท้จริงในชีวิตประจำวัน 13 การให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าในทุกขั้นตอนการออกแบบคือสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในปรัชญาของ IKEA

ตารางด้านล่างนี้สรุปหลักการทั้ง 5 ประการของ Democratic Design เพื่อให้เห็นภาพความเชื่อมโยงที่ชัดเจน:

หลักการ (Principle) คำอธิบาย (Description) ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ (Strategic Significance)
ราคาที่เข้าถึงได้ (Low Price) IKEA กำหนดราคาขายไว้ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการออกแบบ 14 เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะเข้าถึงคนจำนวนมากที่สุด 8 เป็นหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมในทุกขั้นตอน ทั้งการออกแบบ, การผลิต, และโลจิสติกส์ 14
การใช้งาน (Function) ผลิตภัณฑ์ต้องสามารถแก้ไขปัญหาหรือตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง 13 โดยอิงจากการสังเกตพฤติกรรมลูกค้าจากการเยี่ยมบ้าน 14 สร้างคุณค่าที่จับต้องได้และทำให้ลูกค้าเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์มีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตของพวกเขา 13
รูปแบบ (Form) ผลิตภัณฑ์ต้องมีดีไซน์ที่สวยงามและดึงดูดใจ 14 ซึ่งมาพร้อมกับการใช้งาน 13 และถูกสร้างสรรค์ภายใต้ข้อจำกัดด้านต้นทุน 14 ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนใจและเป็นที่ต้องการของผู้คนในวงกว้าง โดยไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง 8
คุณภาพ (Quality) ผลิตภัณฑ์ต้องมีความคงทนและผ่านการทดสอบคุณภาพที่เข้มงวดในห้องปฏิบัติการ 14 เพื่อให้สามารถใช้งานได้ยาวนานและคุ้มค่า 8 สร้างความเชื่อมั่นและความภักดีในระยะยาวให้กับลูกค้า 9 และลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการรับประกันสินค้า 17
ความยั่งยืน (Sustainability) ผลิตภัณฑ์ต้องถูกผลิตด้วยวิธีการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม 8 โดยใช้วัสดุที่ยั่งยืนและสามารถรีไซเคิลได้ 18 รวมถึงลดปริมาณขยะในห่วงโซ่อุปทาน 19 สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อโลก 18 และช่วยลดต้นทุนในระยะยาว 14

 

เสาที่ 3: อาณาจักรอาหาร: กิมมิกที่กลายเป็นหัวใจ

 

นวัตกรรมโมเดลธุรกิจของ IKEA ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงเฟอร์นิเจอร์ 2 Ingvar Kamprad สังเกตว่าลูกค้าจำนวนมากมักจะออกจากร้านในช่วงเวลารับประทานอาหาร ซึ่งเป็นการขัดจังหวะการตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ 2 เขาจึงสรุปได้อย่างสั้นและเข้าใจง่ายว่า “ลูกค้าที่หิวจะซื้อของน้อยลง” 2 ด้วยเหตุนี้ การตัดสินใจเปิดร้านอาหารและคาเฟ่ในสโตร์แห่งแรกที่ Älmhult ในปี ค.ศ. 1960 จึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังอย่างยิ่ง 22

ในตอนแรกธุรกิจอาหารไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อทำกำไร แต่เพื่อทำหน้าที่เป็นกลยุทธ์เชิงการตลาด 21 ร้านอาหารกลายเป็นจุดดึงดูดสำคัญที่ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชม (Footfall) และทำให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านนานขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้า 21 ทุกวันนี้ธุรกิจอาหารของ IKEA สร้างยอดขายกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี 21 และประมาณ 30% ของผู้เยี่ยมชมทั่วโลกเข้ามาในสโตร์เพื่อรับประทานอาหารเป็นหลัก 21

ธุรกิจอาหารของ IKEA ยังทำหน้าที่เสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างชาญฉลาด 24 การนำเสนออาหารสวีเดนที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมีทบอลพร้อมแยมลิงกอนเบอร์รีช่วยย้ำเตือนผู้บริโภคถึงรากเหง้าของแบรนด์ 21 ในขณะเดียวกัน IKEA ยังมีการปรับเมนูอาหารให้เข้ากับรสนิยมท้องถิ่นเพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับลูกค้าในแต่ละประเทศ 26 ตัวอย่างเช่น การนำเสนอเมนูมังสวิรัติที่หลากหลายในอินเดียเพื่อสะท้อนความชอบของประชากรส่วนใหญ่ 26 และเมนูอย่าง Lamb Shank ในฝรั่งเศส 23 ร้านอาหารของ IKEA จึงเป็นกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งในการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและการสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงได้ง่ายในรูปแบบที่จับต้องได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

กลไกเบื้องหลังความสำเร็จ: การบริหารจัดการที่ซับซ้อนอย่างเรียบง่าย

 

 

ห่วงโซ่อุปทานเชิงกลยุทธ์

 

สิ่งที่ทำให้ IKEA แตกต่างจากผู้ค้าปลีกรายอื่นคือการพยายามควบคุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 10 โดยการลดการพึ่งพาคนกลางให้น้อยที่สุด 10 แนวทางนี้ช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพและต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ 10 นอกจากนี้ยังสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับซัพพลายเออร์ โดยมีระยะเวลาเฉลี่ยถึง 11 ปี 10 ซึ่งช่วยให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาสินค้าและได้ราคาที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ IKEA ยังมีหลักปฏิบัติที่เข้มงวดที่เรียกว่า IWAY (The IKEA Way) ซึ่งกำหนดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และสวัสดิภาพของแรงงานที่ซัพพลายเออร์ทั่วโลกต้องปฏิบัติตาม 10 การให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่อุปทานแสดงให้เห็นว่า IKEA ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนพอ ๆ กับผลกำไร

 

การบริหารจัดการคลังสินค้าและโลจิสติกส์

 

เพื่อรองรับการเติบโตระดับโลก IKEA ได้นำกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ที่ซับซ้อนมาใช้ 12 โดยใช้โมเดลแบบ

Hub-and-Spoke ซึ่งศูนย์กระจายสินค้าทำหน้าที่เป็นศูนย์กลาง (Hub) และมีคลังสินค้าขนาดเล็กในภูมิภาคต่าง ๆ ทำหน้าที่เป็นก้าน (Spoke) 12 โมเดลนี้ช่วยให้การขนส่งและจัดการสินค้าคงคลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังนำเทคโนโลยีอัตโนมัติ (Automated Storage and Retrieval Systems – AS/RS) มาใช้เพื่อเพิ่มความเร็วและความถูกต้องในการจัดการสินค้า 12

การใช้เทคนิค Cross-docking ที่นำสินค้าจากรถบรรทุกขาเข้าขนถ่ายไปยังรถบรรทุกขาออกทันทีโดยแทบไม่มีการเก็บในคลัง 12 และปรัชญา

Just-in-Time ที่ช่วยให้บริษัทไม่ต้องเก็บสต็อกสินค้าไว้มากเกินไป 12 ทำให้ IKEA สามารถลดต้นทุนคลังสินค้าได้อย่างมากและสามารถปรับตัวเข้ากับแนวโน้มของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

 

กลยุทธ์การขยายสู่ตลาดโลก

 

IKEA ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไปทั่วโลกด้วยการรักษาสมดุลระหว่างการนำเสนอแบรนด์ที่ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก (Standardization) และการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น (Localization) 26 กลยุทธ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การปรับผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการปรับรูปแบบการดำเนินงานให้เหมาะสมกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของแต่ละตลาด

ตารางด้านล่างนี้แสดงตัวอย่างการปรับตัวของ IKEA ในตลาดที่สำคัญ:

ตลาด (Market) การปรับตัว (Adaptation) คำอธิบาย (Explanation)
จีน (China) การให้บริการประกอบเฟอร์นิเจอร์: ร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อให้ลูกค้าสามารถจ้างช่างประกอบได้ 26 ตอบสนองความต้องการของชาวจีนจำนวนมากที่นิยมจ้างผู้เชี่ยวชาญมาประกอบเฟอร์นิเจอร์ 26
ขนาดสินค้า: ปรับขนาดเฟอร์นิเจอร์ให้เล็กลงเพื่อเหมาะกับที่พักอาศัยในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด 26 สอดคล้องกับวิถีชีวิตในเมืองใหญ่ของจีนที่พื้นที่อยู่อาศัยมีขนาดเล็ก 27
ทำเลที่ตั้งร้าน: เลือกทำเลใกล้กับระบบขนส่งสาธารณะเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าในเมืองใหญ่ได้สะดวก 26 ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในเมืองที่ไม่นิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในระยะทางไกล 26
อินเดีย (India) เมนูอาหาร: ปรับเมนูอาหารให้มีตัวเลือกมังสวิรัติและอาหารท้องถิ่นที่หลากหลาย 26 เพื่อสะท้อนถึงรสนิยมและความเชื่อทางอาหารของประชากรส่วนใหญ่ 26
การจัดหาในท้องถิ่น (Local Sourcing): ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการจัดหาสินค้าจากผู้ผลิตในอินเดียเป็น 50% ภายในปี 2030 29 เพื่อลดต้นทุนและสร้างความยืดหยุ่นให้กับห่วงโซ่อุปทาน อีกทั้งยังช่วยสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนท้องถิ่น 29

การที่ IKEA ควบคุมห่วงโซ่อุปทานได้อย่างเบ็ดเสร็จและมีการกระจายแหล่งผลิตในระดับภูมิภาคได้กลายเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของโลก 29 ผู้บริหารระดับสูงของ INGKA Group ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของ IKEA ระบุว่า แม้จะมีความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก IKEA ก็สามารถปรับตัวได้ดีกว่าที่หลายคนคิด เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานของพวกเขามีความเป็น “ท้องถิ่นและภูมิภาค” มากกว่าที่คนทั่วไปคาดการณ์ 29 การกระจายความเสี่ยงด้านการผลิตเช่นนี้ควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานหลักขององค์กรที่เข้มแข็ง ทำให้ IKEA มีความยืดหยุ่นในการดำเนินงานและสามารถรับมือกับความท้าทายระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

การเดินทางสู่โลกดิจิทัลและความยั่งยืน: บทใหม่ของ IKEA

 

 

จากแคตตาล็อกสู่ Omni-channel

 

แม้จะเป็นผู้นำในตลาดเฟอร์นิเจอร์แบบดั้งเดิม แต่ IKEA ต้องเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล 31 การยึดติดกับโมเดลร้านค้าขนาดใหญ่ในชานเมืองที่เคยประสบความสำเร็จ ทำให้ IKEA ปรับตัวเข้าสู่ E-commerce ล่าช้ากว่าคู่แข่งและเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยอดขายลดลงเป็นครั้งแรกในปี 2013 31 นอกจากนี้ โครงสร้างการดำเนินงานแบบเก่าก็ไม่เอื้อต่อการจัดการออร์เดอร์ออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 31

อย่างไรก็ตาม IKEA ได้แก้ไขปัญหานี้ด้วยการสร้างกลยุทธ์แบบ Omni-channel ที่ผสานช่องทางการขายแบบดั้งเดิมและออนไลน์เข้าด้วยกัน 30 แทนที่จะพึ่งพาแต่ร้านค้าขนาดใหญ่ในชานเมืองเพียงอย่างเดียว IKEA ได้เริ่มทดลองเปิดร้านค้าขนาดเล็กในตัวเมือง (City-center stores) และสตูดิโอวางแผนการตกแต่ง 17 เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนเมืองที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมและมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ 33 การปรับตัวนี้แสดงให้เห็นว่า IKEA ตระหนักถึงความจำเป็นในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ และยอมเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจที่เคยประสบความสำเร็จเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของตลาด

นอกจากนี้ IKEA ยังนำเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) มาใช้ในแอปพลิเคชัน 9 เพื่อให้ลูกค้าสามารถจำลองการวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้เสมือนจริง 9 การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยยกระดับประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ให้ใกล้เคียงกับการเดินสำรวจในร้านค้าจริง ซึ่งเป็นการลดช่องว่างระหว่างสองโลกและเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า

 

วิสัยทัศน์แห่งความยั่งยืน

 

IKEA ได้วางกลยุทธ์ความยั่งยืนไว้เป็นแกนหลักของธุรกิจภายใต้ชื่อ “People & Planet Positive” 20 กลยุทธ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แคมเปญการตลาด แต่เป็นส่วนหนึ่งของปรัชญา Democratic Design และสะท้อนความมุ่งมั่นขององค์กรที่ต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 35

กลยุทธ์ความยั่งยืนของ IKEA มุ่งเน้นไปที่ 3 ด้านหลัก พร้อมเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับปี ค.ศ. 2030 และเป้าหมายระยะยาวสำหรับปี ค.ศ. 2050 20 ดังตารางต่อไปนี้:

ด้านที่มุ่งเน้น (Focus Area) เป้าหมายหลัก (Core Ambition) ตัวอย่างเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง (Specific Targets)
การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนและดีต่อสุขภาพ (Healthy & Sustainable Living) ส่งเสริมการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนให้เป็นเรื่องปกติ 20 นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สนับสนุนการประหยัดพลังงาน, น้ำ และการจัดการขยะ รวมถึงการนำเสนออาหารที่อุดมด้วยพืชผัก 35
สภาพภูมิอากาศ, ธรรมชาติ และระบบหมุนเวียน (Climate, Nature & Circularity) มุ่งสู่การเป็นธุรกิจหมุนเวียนอย่างสมบูรณ์ และมีผลกระทบเชิงบวกต่อสภาพภูมิอากาศ 20 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากห่วงโซ่คุณค่าให้ได้ 50% ภายในปี 2030 (จากฐานปี 2016) และมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2050 35 รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในการผลิต 18 และการออกแบบผลิตภัณฑ์ทั้งหมดให้สามารถหมุนเวียนได้ 35
ความเป็นธรรมและความเท่าเทียม (Fair & Equal) ส่งเสริมสังคมที่มีความเป็นธรรมและเท่าเทียมโดยเคารพสิทธิมนุษยชน 20 สร้างความมั่นใจว่าสภาพแวดล้อมการทำงานมีความปลอดภัยและเป็นธรรมตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศในองค์กร 28

 

บทสรุป: บทเรียนที่สร้างแรงบันดาลใจจาก IKEA

 

กรณีศึกษาของ IKEA แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จที่ยั่งยืนไม่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการมีจุดยืนที่ชัดเจนและการทำธุรกิจที่ผสานความมุ่งมั่นเข้ากับนวัตกรรมอย่างลงตัว IKEA สอนบทเรียนทางธุรกิจที่สำคัญดังนี้:

  • ปรัชญาที่ยึดมั่นคือเข็มทิศ: การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของผู้ก่อตั้งในการสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนจำนวนมากได้กลายเป็นปรัชญาหลักที่ขับเคลื่อนทุกการตัดสินใจของบริษัทตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน
  • เปลี่ยนข้อจำกัดให้เป็นโอกาส: การที่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านภูมิประเทศใน Småland และปัญหาด้านโลจิสติกส์ในยุคแรก ๆ ไม่ได้ทำให้ IKEA ยอมแพ้ แต่กลับใช้ข้อจำกัดเหล่านั้นเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นวัตกรรมโมเดลธุรกิจอย่างแพ็กแบนและ Democratic Design ซึ่งกลายเป็นจุดแข็งที่ไม่มีใครเลียนแบบได้
  • ความยืดหยุ่นในการปรับตัว: แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูงในโลกของธุรกิจแบบดั้งเดิม IKEA ก็กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ๆ และปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับโลกดิจิทัลและกระแสความยั่งยืนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการเปิดร้านค้าขนาดเล็ก การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการกำหนดเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่ทะเยอทะยาน IKEA แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง

IKEA จึงเป็นมากกว่าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ แต่เป็นตัวอย่างที่ทรงพลังของการทำธุรกิจที่เริ่มต้นจากความเรียบง่าย ใช้ความมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรม และปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อคงไว้ซึ่งการเป็นผู้นำที่ครองใจผู้คนทั่วโลกได้อย่างแท้จริง

 

Facebook
Twitter
Email
Print

Category

Latest Articles

Related articles

Set your categories menu in Header builder -> Mobile -> Mobile menu element -> Show/Hide -> Choose menu
Create your first navigation menu here
Shopping cart
Start typing to see posts you are looking for.