Table of Contents
Toggleกรณีศึกษาธุรกิจระดับโลก Airbnb
กรณีศึกษาธุรกิจระดับโลก Airbnb เริ่มต้นจากการปล่อยห้องนอนเสริม สู่การพลิกวงการโรงแรม
Airbnb: The Disruptor’s Journey
จากห้องนอนเสริม สู่การพลิกโฉมวงการโรงแรม
ภาพรวมการเติบโตที่น่าทึ่ง
5 ล้าน+
เจ้าของที่พัก (Hosts)
เครือข่ายที่พักอาศัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขับเคลื่อนโดยคนท้องถิ่น
2 พันล้าน+
การเข้าพัก (Guest Arrivals)
สร้างประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครทั่วทุกมุมโลก
$113 พันล้าน
มูลค่าบริษัท ณ วัน IPO
สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในโมเดลธุรกิจ Sharing Economy
กลยุทธ์ “กล่องซีเรียล” ที่พลิกวิกฤต
ในปี 2008 ธุรกิจเกือบล้มเหลวและมีหนี้สินมากมาย แต่ด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่นอกกรอบ พวกเขาเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการขายซีเรียลรุ่นพิเศษ จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ
เผชิญวิกฤต
ถูกนักลงทุนปฏิเสธและมีหนี้บัตรเครดิต
ไอเดียนอกกรอบ
ผลิตซีเรียล “Obama O’s” และ “Cap’n McCains”
สร้างรายได้และกระแส
ระดมทุนได้กว่า $30,000 และเป็นข่าวระดับชาติ
จุดประกายความสนใจ
ได้รับเงินลงทุนจาก Y Combinator
$30,000
จากซีเรียล 2 รสชาติ
บทพิสูจน์ของความมุมานะที่ไม่ยอมแพ้ ซึ่งดึงดูดนักลงทุนที่มองเห็น “ความกล้า” มากกว่าแค่ “ไอเดีย”
วงล้อแห่งการเติบโต: พลังของภาพถ่ายคุณภาพสูง
การลงทุนที่เปลี่ยนเกม
Airbnb พบว่าภาพถ่ายคุณภาพต่ำคืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ลังเลที่จะจอง แทนที่จะปล่อยให้เป็นปัญหาของโฮสต์ บริษัทได้ตัดสินใจลงทุนจ้างช่างภาพมืออาชีพถ่ายรูปที่พักให้ฟรี
กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่แก้ปัญหา แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดด นำไปสู่ยอดจองและรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ผลกระทบของการใช้ภาพถ่ายโดยช่างภาพมืออาชีพ
แรงกระเพื่อม: Airbnb ปะทะ โรงแรมดั้งเดิม
การมาถึงของ Airbnb ไม่ได้ทำลายล้างโรงแรมด้วยปริมาณห้องพัก แต่ด้วยการมอบ “คุณค่าทางอารมณ์” และ “ประสบการณ์ที่เหนือกว่า” ซึ่งตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่ได้ดีกว่าในหลายมิติ
เปรียบเทียบคุณค่าที่นำเสนอระหว่าง Airbnb และโรงแรมดั้งเดิม
วิวัฒนาการสู่แพลตฟอร์มประสบการณ์
มากกว่าแค่ที่พัก
Airbnb ไม่หยุดแค่การเป็นแพลตฟอร์มที่พัก แต่ขยายไปสู่ “ประสบการณ์” (Experiences) เปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักได้ทำกิจกรรมที่ไม่เหมือนใครกับคนท้องถิ่น และสร้างรายได้ส่วนใหม่ที่สำคัญให้กับบริษัท
ในช่วงวิกฤตโควิด-19 โมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่นยังช่วยให้บริษัทปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยหันมาเน้นการท่องเที่ยวในประเทศและ Staycation ซึ่งแตกต่างจากโรงแรมดั้งเดิมที่ได้รับผลกระทบหนักกว่า
สัดส่วนรายได้โดยประมาณจากธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่
ความท้าทายบนเส้นทางแห่งการเติบโต
⚖️สถานะทางกฎหมาย
ในหลายประเทศรวมถึงไทย ธุรกิจยังคงอยู่ในพื้นที่สีเทาทางกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายโรงแรมที่มีอยู่เดิมไม่สอดคล้องกับโมเดลธุรกิจใหม่ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนและเสี่ยงต่อบทลงโทษ
🏘️ความขัดแย้งในชุมชน
การมีคนแปลกหน้าเข้าออกในพื้นที่อยู่อาศัยสร้างความกังวลเรื่องความปลอดภัย เสียงดัง และผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นความท้าทายเชิงสังคมที่ต้องจัดการอย่างระมัดระวัง
รายงานกรณีศึกษาเชิงลึก: Airbnb จากห้องเช่าเสริมสู่การพลิกโฉมวงการโรงแรม
จากที่พักชั่วคราวบนที่นอนลมในห้องนอนว่าง สู่แพลตฟอร์มระดับโลกที่สั่นคลอนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมดั้งเดิม นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องราวของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่เป็นเรื่องราวของแนวคิดที่กล้าหาญ การแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ และความมุมานะที่ไม่ยอมแพ้ รายงานฉบับนี้จะเจาะลึกกรณีศึกษาของ Airbnb ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ดูไร้สาระไปจนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมทั้งวิเคราะห์กลยุทธ์สำคัญ ความท้าทาย และบทเรียนที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจในโมเดล “เศรษฐกิจแบ่งปัน” (Sharing Economy) นี้สามารถพลิกเกมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนนับล้านทั่วโลก
Airbnb ถือกำเนิดขึ้นในปี 2007 จากการต้อนรับเกสต์เพียง 3 คนในซานฟรานซิสโก 1 ในวันนี้ อาณาจักร Airbnb ได้แผ่ขยายไปทั่วโลกด้วยจำนวนเจ้าของที่พัก (Host) มากกว่า 5 ล้านคน และมียอดการเข้าพักที่สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้คนไปแล้วกว่า 2,000 ล้านครั้ง 1 การเดินทางของบริษัทแห่งนี้คือบทเรียนอันทรงคุณค่าที่แสดงให้เห็นถึงพลังของการมองเห็นโอกาสในวิกฤต และการสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าเพื่อเอาชนะอุตสาหกรรมเดิมที่แข็งแกร่ง
การถือกำเนิดของผู้กล้าที่ไม่ยอมแพ้
เรื่องราวจากห้องว่างและค่าเช่าที่แพง
จุดเริ่มต้นของ Airbnb ไม่ได้มาจากวิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่มาจากปัญหาเฉพาะหน้าที่เรียบง่ายและเป็นเรื่องส่วนตัว ในปี 2007 ผู้ร่วมก่อตั้ง Brian Chesky และ Joe Gebbia ประสบปัญหาทางการเงินและมีเงินไม่พอจ่ายค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ในซานฟรานซิสโก 2 ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง เมืองซานฟรานซิสโกได้จัดงานประชุมด้านการออกแบบครั้งใหญ่ และโรงแรมทุกแห่งถูกจองเต็ม 3
ด้วยความสิ้นหวังแต่ก็เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งคู่จึงมองเห็นโอกาส พวกเขาตัดสินใจนำที่นอนลม 3 ที่ที่มีอยู่มาวางในห้องนั่งเล่นและเปิดให้คนทั่วไปเช่าเป็นที่พักชั่วคราว พร้อมโฆษณาในชื่อ “Airbed & Breakfast” 3 ไอเดียที่ดูแปลกประหลาดในสายตาคนทั่วไปนี้กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาลในเวลาต่อมา
กรณีศึกษาที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าการค้นพบปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของตนเองนั้น สามารถนำไปสู่การสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจที่สามารถขยายผลเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับคนหมู่มากได้ 3 การเริ่มต้นจากการแก้ปัญหาของตนเองด้วยทรัพยากรที่มีอยู่ (ห้องว่างและที่นอนลม) และพบว่าปัญหานั้นสามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงในตลาด (โรงแรมเต็ม) ได้อย่างลงตัว เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าการเริ่มต้นธุรกิจไม่จำเป็นต้องอาศัยเงินทุนมหาศาลหรือแผนการที่ซับซ้อน แต่สามารถเริ่มต้นจากจุดที่เล็กที่สุดและมีความกล้าที่จะทดลองได้
เมื่อธุรกิจเกือบล้ม: กลยุทธ์ “กล่องซีเรียล” ที่ช่วยชีวิต
แม้จะเปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการในปี 2008 แต่เส้นทางของ Airbnb ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ธุรกิจเกือบล้มเหลวในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าโมเดลการให้คนแปลกหน้ามาพักอาศัยในบ้านของผู้อื่นนั้นเป็นไอเดียที่ “บ้าบิ่น” และ “เป็นไปไม่ได้” 5 พวกเขาถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าและมีหนี้บัตรเครดิตจำนวนมาก 6
ในภาวะที่จนตรอก ทั้งสามผู้ก่อตั้ง Brian Chesky, Joe Gebbia, และ Nathan Blecharczyk ได้คิดค้นกลยุทธ์ทางการตลาดที่แปลกประหลาดแต่เปี่ยมด้วยความฉลาด พวกเขาใช้โอกาสที่การประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตกำลังจะเกิดขึ้น โดยการผลิตซีเรียลกล่องพิเศษภายใต้ชื่อ “Obama O’s” และ “Cap’n McCains” เพื่อนำมาขายหารายได้ 6 การกระทำที่บ้าบิ่นนี้ไม่ได้แค่ช่วยให้พวกเขาทำเงินได้กว่า 20,000 ถึง 30,000 ดอลลาร์ 7 ซึ่งมากพอจะนำไปชำระหนี้บัตรเครดิตและพยุงธุรกิจไว้ได้ 7 แต่ยังสร้างกระแสข่าวที่ทำให้พวกเขาได้รับการสัมภาษณ์จากสื่อระดับชาติอย่าง CNN 7
การแสดงออกถึงความมุมานะและไม่ย่อท้อนี้ดึงดูดความสนใจของ Paul Graham ผู้ก่อตั้งบริษัทเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพชื่อดังอย่าง Y Combinator ซึ่งในตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจในโมเดลธุรกิจของ Airbnb เช่นกัน 3 แต่เขาประทับใจใน “ความกล้า” และความสามารถในการแก้ปัญหาที่นอกกรอบของผู้ก่อตั้ง 8 เขามองเห็นว่าทีมนี้มีคุณสมบัติที่สำคัญยิ่งกว่าไอเดียตั้งต้น นั่นคือความสามารถในการเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และในที่สุด Y Combinator ก็ตัดสินใจลงทุนเงินก้อนแรกให้กับพวกเขา 3 เรื่องราวนี้กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่านักลงทุนที่ฉลาดไม่ได้มองเพียงแค่แนวคิดทางธุรกิจที่สวยหรู แต่พวกเขาลงทุนในผู้ก่อตั้งที่มีความมุ่งมั่นและพลังในการแก้ไขปัญหาอย่างไม่ย่อท้อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสำเร็จในระยะยาว
การสร้างคุณค่าในยุคเศรษฐกิจแบ่งปัน
กลยุทธ์หลักในการเติบโตแบบก้าวกระโดด
การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Airbnb ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่มาจากกลยุทธ์ที่เฉียบคมและมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง 6 ในปี 2009 บริษัทได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการจาก “Airbed & Breakfast” เป็น “Airbnb” เพื่อสื่อสารว่าบริการของพวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่การให้เช่าที่นอนลมอีกต่อไป แต่ได้ขยายไปสู่การให้เช่าอพาร์ตเมนต์, บ้านทั้งหลัง, และบ้านพักตากอากาศ 1 นี่คือการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ช่วยเปิดตลาดให้กว้างขึ้นอย่างมหาศาล
หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดและพลิกเกมอย่างแท้จริงคือการลงทุนในคุณภาพของภาพถ่ายที่พัก 9 ในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจ Airbnb พบว่าหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้งานลังเลที่จะจองที่พักคือคุณภาพของภาพถ่ายที่ดูไม่เป็นมืออาชีพและบางครั้งก็ทำให้เกิดปัญหา “รูปไม่ตรงปก” 11 แทนที่จะปล่อยให้เป็นปัญหาของเจ้าของที่พักแต่ละคน Airbnb ตัดสินใจลงทุนด้วยการเสนอบริการช่างภาพมืออาชีพให้แก่โฮสต์ฟรี โดยจะหักค่าใช้จ่ายจากยอดจองในอนาคต 12 กลยุทธ์นี้ไม่ได้แค่แก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพของภาพ แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจให้กับแพลตฟอร์มได้อย่างมีนัยสำคัญ 13 จากข้อมูลของบริษัท ที่พักที่มีภาพถ่ายจากช่างภาพมืออาชีพสามารถเพิ่มรายได้ได้ถึง 20% และมียอดจองเพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับที่พักอื่น ๆ ในพื้นที่เดียวกัน 12
การแก้ปัญหาที่ดูเหมือนเป็นรายละเอียดเล็กน้อยอย่างคุณภาพของภาพถ่ายนี้ได้สร้างผลกระทบทางธุรกิจที่ใหญ่หลวง 9 การตัดสินใจลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหาที่คอยขัดขวางการเติบโตได้สร้าง “วงล้อแห่งการเติบโต” (Flywheel Effect) ที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มอย่างแข็งแกร่ง เมื่อโฮสต์มีภาพถ่ายที่พักสวยงาม ก็จะดึงดูดผู้เข้าพักได้มากขึ้น ส่งผลให้โฮสต์มีรายได้เพิ่มขึ้น และเมื่อโฮสต์มีรายได้ดี ก็จะมีแรงจูงใจที่จะให้บริการที่ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่รีวิวเชิงบวกที่ดึงดูดผู้เข้าพักรายใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
การสร้างความน่าเชื่อถือและชุมชน
การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเป็นหัวใจสำคัญของ Airbnb 14 แพลตฟอร์มได้เพิ่มฟีเจอร์และปรับปรุงบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยให้กับทั้งโฮสต์และผู้เข้าพัก 15 เช่น ระบบรีวิวและให้คะแนน, โปรแกรม Superhost สำหรับโฮสต์ที่มีมาตรฐานสูง, และฟีเจอร์ใหม่ ๆ กว่า 500 รายการในช่วงสามปีที่ผ่านมา เช่น “Guest Favorites” ที่แนะนำที่พักที่ดีที่สุดซึ่งมียอดจองไปแล้วกว่า 350 ล้านคืน 14
นอกจากนี้ Airbnb ยังได้ขยายขอบเขตธุรกิจจากแค่ “ที่พัก” ไปสู่ “ประสบการณ์” (Experiences) ซึ่งเป็นบริการที่ให้ผู้ใช้งานสามารถจองกิจกรรมหรือทัวร์ที่ไม่เหมือนใครกับคนท้องถิ่นได้ 14 บริการใหม่นี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้เพิ่มขึ้น (คิดเป็น 7% ของรายได้ทั้งหมด) 14 แต่ยังเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการมอบประสบการณ์การเดินทางแบบครบวงจร ที่ไม่ใช่แค่การเข้าพัก แต่เป็นการได้สัมผัสและเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง
ความยืดหยุ่นของโมเดลธุรกิจของ Airbnb ได้รับการพิสูจน์ครั้งสำคัญในช่วงวิกฤตโควิด-19 14 ในขณะที่อุตสาหกรรมโรงแรมแบบดั้งเดิมที่ต้องลงทุนสูงและมีสินทรัพย์ตายตัวต้องเผชิญกับผลกระทบอย่างหนักจากการล็อกดาวน์และการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ 14 โมเดลของ Airbnb ที่ปราศจากสินทรัพย์ (Asset-light) และกระจายอำนาจ (Decentralized) กลับมีความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว 14 พวกเขาพลิกเกมด้วยการเปลี่ยนเป้าหมายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเน้นการเดินทางในประเทศ, การท่องเที่ยวใกล้บ้าน (Staycation), และการเปิดตัวฟีเจอร์ “Work from Anywhere” เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป 14 ความสามารถในการปรับตัวนี้ทำให้ Airbnb ไม่เพียงแค่ “รอด” แต่ยังสามารถเติบโตในสภาวะที่ท้าทายได้ สะท้อนให้เห็นถึงความได้เปรียบของโมเดลธุรกิจที่สามารถยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่ผันผวนได้อย่างทันท่วงที 14
แรงกระเพื่อมที่สั่นคลอนยักษ์ใหญ่
การเปรียบเทียบและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโรงแรม
การเกิดขึ้นของ Airbnb ได้สร้างแรงกระเพื่อมอย่างมหาศาลต่ออุตสาหกรรมโรงแรม 17 นักวิเคราะห์และนักวิจัยต่างพยายามทำความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น จากงานวิจัยที่เก็บข้อมูลจากโรงแรม 101 แห่งในซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของ Airbnb พบว่าการทำลายล้างที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากปริมาณห้องพักของ Airbnb โดยตรง แต่มาจากปัจจัยที่ซับซ้อนกว่านั้น 18
ข้อมูลจากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า ปริมาณห้องพัก บนแพลตฟอร์มของ Airbnb ไม่ได้มีผลต่อรายได้ต่อห้อง (Revenue Per Available Room หรือ RevPar) ของโรงแรมอย่างมีนัยสำคัญ 18 แต่สิ่งที่ส่งผลกระทบอย่างแท้จริงคือ
ราคาเฉลี่ย ของที่พักใน Airbnb ที่สูงขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ คะแนนความพึงพอใจ ของผู้ใช้งาน Airbnb ที่เพิ่มสูงขึ้น 18 เมื่อผู้บริโภคเริ่มได้รับประสบการณ์ที่ดีจาก Airbnb พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะเลือกใช้บริการที่พักทางเลือกนี้มากขึ้น ซึ่งก่อให้เกิด “ผลจากการทดแทน” (Substitution Effect) ที่ทำให้ยอดขายของโรงแรมดั้งเดิมลดลงไป 18
การวิเคราะห์นี้แสดงให้เห็นว่าการทำลายล้างของธุรกิจใหม่ (Disruption) ไม่ได้เกิดจากการเข้ามาของผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชันคล้ายกันในปริมาณที่มาก แต่เกิดจากความสามารถในการนำเสนอ “คุณค่าทางอารมณ์” (Emotional Value) และ “ประสบการณ์ที่เหนือกว่า” 11 ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าได้สิ่งที่คุ้มค่ามากกว่าการเข้าพักในโรงแรม 18 จุดแข็งของ Airbnb คือการที่ผู้เข้าพักสามารถสัมผัสบรรยากาศเหมือนคนท้องถิ่น มีครัวส่วนตัว หรือมีพื้นที่สำหรับกลุ่มใหญ่ ในขณะที่โรงแรมมีจุดแข็งในเรื่องของมาตรฐานและความปลอดภัยที่คาดเดาได้ 11 แต่เมื่อที่พักใน Airbnb เริ่มมีคุณภาพสูงขึ้น และมีราคาที่สามารถแข่งขันได้กับโรงแรม 4 ดาวในบางพื้นที่ 19 การตัดสินใจของผู้บริโภคจึงเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อโรงแรมต้องปรับตัว
อุตสาหกรรมโรงแรมไม่ได้นิ่งเฉยต่อการเข้ามาของ Airbnb แต่กลับถูกบังคับให้ต้องพัฒนาและปรับปรุงตัวเองครั้งใหญ่ 17 โรงแรมหลายแห่งได้เริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการและพื้นที่ใช้สอยเพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคน Gen Y หรือ Millennials ที่กลายเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ในตลาด 21
ตัวอย่างของการปรับตัวที่น่าสนใจ ได้แก่ การนำมินิบาร์และโต๊ะทำงานออกจากห้องพัก 21 เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่มองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นและมีราคาแพงเกินไป 21 หลายโรงแรมยังได้เปลี่ยนพื้นที่ล็อบบี้ให้กลายเป็น Co-working Space หรือพื้นที่ทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ 21 นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าโรงแรมบางแห่งกำลังพิจารณาที่จะนำตู้เสื้อผ้าออกจากห้องพัก เนื่องจากพบว่าการเข้าพักของลูกค้าหลายครั้งสั้นเกินกว่าที่จะนำเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าเดินทาง 21
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Airbnb ไม่ใช่ “เชื้อโรคร้าย” ที่จะ “ค่อย ๆ กัดกิน” ธุรกิจโรงแรมจนหมดสิ้นอย่างที่บางคนเคยคาดการณ์ไว้ 18 แต่กลับทำหน้าที่เป็นตัวเร่งสำคัญที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมโรงแรมต้องกลับมาทบทวนรูปแบบการให้บริการที่ล้าสมัยและปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ความท้าทายและบทเรียนสำหรับอนาคต
ปัญหาความขัดแย้งในชุมชนและประเด็นด้านความปลอดภัย
แม้จะเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ Airbnb ก็ต้องเผชิญกับ “ฝันร้าย” ที่เป็นผลพวงจากลักษณะธุรกิจที่กระจายอำนาจอย่างเต็มที่ ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในหลายพื้นที่ทั่วโลกคือความขัดแย้งในชุมชน 22 เนื่องจากที่พักของ Airbnb กระจายตัวอยู่ในพื้นที่อยู่อาศัยทั่วไป ไม่ใช่พื้นที่เชิงพาณิชย์เหมือนโรงแรม การมีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้าออกตลอดเวลาอาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องเสียงดัง, การจัดงานปาร์ตี้, หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของแขก 23 ในประเทศไทยเองก็เคยมีกรณีดราม่าที่นักท่องเที่ยวเช่าห้องในคอนโดเพื่อสอนโยคะ หรือถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในพื้นที่ส่วนกลาง 22 ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้อาศัยในพื้นที่ที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับแพลตฟอร์ม
ความขัดแย้งทางสังคมเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ “เศรษฐกิจแบ่งปัน” ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ในเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังสร้างความท้าทายเชิงสังคมใหม่ๆ ที่ต้องอาศัยการจัดการที่แตกต่างออกไปจากเดิม 23 ซึ่ง Airbnb ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ออกนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น การประกาศห้ามจัดปาร์ตี้ในที่พักอย่างถาวร 24 และแนะนำให้เจ้าของที่พักสร้าง “เครือข่ายเฝ้าระวังชุมชน” กับเพื่อนบ้านเพื่อช่วยสอดส่องดูแลความเรียบร้อย 23
สถานะทางกฎหมายและการเอาชนะอุปสรรค
อีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญของ Airbnb คือสถานะทางกฎหมายที่ยังคงคลุมเครือ โดยเฉพาะในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย 25 เนื่องจากธุรกิจให้เช่าที่พักระยะสั้นนี้เติบโตเร็วกว่าการปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่ ทำให้กฎหมายควบคุมการประกอบธุรกิจโรงแรมฉบับเก่าอย่าง พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2547 ไม่สอดคล้องกับสภาพของธุรกิจในปัจจุบัน 25 ส่งผลให้ธุรกิจให้เช่าที่พักผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นี้ยังถูกมองว่า “ผิดกฎหมาย” ในบางกรณีและอาจมีบทลงโทษทางอาญา 25
ถึงแม้จะมีบทลงโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปีสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีใบอนุญาต 26 แต่ทางออกของปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่การ “แบน” ธุรกิจ 22 แต่คือการที่บริษัทและผู้ประกอบการต้องทำงานร่วมกับภาครัฐเพื่อผลักดันให้เกิดการปรับปรุงกฎหมายที่เหมาะสม 25 ปัจจุบันเริ่มมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว เช่น การออกกฎกระทรวงที่กำหนดให้ที่พักที่มีห้องไม่เกิน 8 ห้อง และรองรับผู้เข้าพักไม่เกิน 30 คน ไม่ต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม 27 ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่านวัตกรรมมักจะนำหน้ากฎหมายเสมอ และการเอาชนะอุปสรรคเชิงนโยบายได้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อหาทางออกที่ตอบโจทย์ทุกฝ่าย
ปรัชญาการบริหารแบบ “Founder Mode” ที่สร้างความสำเร็จ
นอกเหนือจากกลยุทธ์ทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์แล้ว ปรัชญาการบริหารของผู้ก่อตั้งก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Airbnb ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน Brian Chesky, CEO ของ Airbnb ได้นำเสนอแนวคิดการบริหารแบบ “Founder Mode” ที่สวนทางกับแนวคิดการบริหารแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า “Manager Mode” 28
การบริหารแบบ Founder Mode ไม่ได้หมายถึงการจู้จี้จุกจิก (Micromanagement) อย่างที่หลายคนเข้าใจในแง่ลบ แต่ Chesky มองว่าเป็นการที่ผู้นำจะต้องลงลึกในทุกรายละเอียดและทุกขั้นตอนของงานอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาวิสัยทัศน์และมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ไว้ 29 เขาเปรียบตัวเองเหมือน “บรรณาธิการ” ของบริษัทที่ต้องตรวจสอบงานทุกชิ้นเพื่อให้มั่นใจว่าได้มาตรฐานที่ตั้งไว้ 28 แนวทางนี้สวนทางกับความเชื่อที่ว่าเมื่อจ้างคนเก่งมาแล้ว ควรปล่อยให้พวกเขาทำงานเอง แต่ Chesky มองว่าการบริหารแบบนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดนิสัยการทำงานที่ผิด ๆ และทำให้ทุกคนในทีมมีเป้าหมายร่วมกัน 28
การตัดสินใจกลับไปใช้ “Founder Mode” เกิดขึ้นเมื่อ Airbnb เติบโตขึ้นจนระบบการทำงานเริ่มซับซ้อนและวัฒนธรรมองค์กรเริ่มเฉื่อยชา 28 Chesky ตระหนักว่าไม่มีรูปแบบการบริหารใดที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกช่วงเวลาของการเติบโต 28 และความสามารถในการกลับไปสู่แก่นแท้ของการเป็นผู้ก่อตั้งคือสิ่งสำคัญในการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง 28 บทเรียนสำคัญจากการบริหารของ Airbnb คือการเลือกลงทุนในโอกาสระยะยาวมากกว่าผลตอบแทนระยะสั้น 4 และการตระหนักว่าผู้นำที่ดีต้องมีส่วนร่วมในทุกช่วงของงาน ไม่ใช่แค่คอยดูอยู่ห่างๆ 29
ตารางที่ 3: บทเรียนสำคัญจากกลยุทธ์ของ Airbnb
กลยุทธ์ที่สำคัญ | วัตถุประสงค์ | ผลลัพธ์ที่ได้รับ | บทเรียนทางธุรกิจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ |
กล่องซีเรียล “Obama O’s” 7 | หาเงินทุนก้อนแรกเพื่อพยุงธุรกิจที่กำลังจะล้ม | ระดมทุนได้กว่า 20,000-30,000 ดอลลาร์ 7 และสร้างกระแสข่าวจากสื่อระดับชาติ | แสดงให้เห็นถึงพลังของความคิดสร้างสรรค์ที่นอกกรอบและความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ซึ่งสำคัญกว่าไอเดียตั้งต้นเพียงอย่างเดียว |
การลงทุนในภาพถ่ายมืออาชีพ 9 | แก้ปัญหาเรื่องคุณภาพของภาพถ่ายและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแพลตฟอร์ม | ยอดจองเพิ่มขึ้น 20% และรายได้เพิ่มขึ้น 20% 12 ช่วยสร้างวงล้อแห่งการเติบโตที่ดึงดูดทั้งโฮสต์และผู้เข้าพัก | การแก้ไขปัญหาที่ดูเหมือนเป็นรายละเอียดเล็กน้อย สามารถสร้างผลกระทบทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ได้ หากปัญหานั้นเป็นอุปสรรคหลักต่อการเติบโต |
การบริหารแบบ “Founder Mode” 28 | รักษาวิสัยทัศน์และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในขณะที่บริษัทเติบโต | ธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น พนักงานมีส่วนร่วมและความผูกพันเพิ่มขึ้น | ผู้นำที่ดีต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับรูปแบบการบริหาร และความสามารถในการกลับไปสู่แก่นแท้ของการเป็นผู้ก่อตั้งคือสิ่งสำคัญในการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง |
บทสรุป: บทเรียนที่ไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจ
เรื่องราวของ Airbnb ตั้งแต่การเริ่มต้นจากไอเดียเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาค่าเช่า ไปจนถึงการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2020 ด้วยมูลค่ากว่า 113,000 ล้านดอลลาร์ 14 คือบทเรียนสำคัญที่บอกเล่าว่าความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากองค์ประกอบที่หลากหลายผสมผสานกันอย่างลงตัว
Airbnb คือตัวอย่างที่ชัดเจนของธุรกิจที่เติบโตบนพื้นฐานของการแก้ปัญหาที่แท้จริง 3 การมีความกล้าที่จะทดลองและไม่ยอมแพ้เมื่อเผชิญกับอุปสรรค 6 การใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อเอาชนะความท้าทาย 7 การให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับผู้ใช้งาน 15 และที่สำคัญที่สุดคือการเป็นบริษัทที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวเข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคและสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างรวดเร็ว 14
กรณีศึกษานี้ไม่ได้มอบเพียงแค่ความรู้เชิงธุรกิจ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่แสดงให้เห็นว่าไอเดียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบางครั้งก็ไม่ได้มาจากห้องประชุมที่หรูหรา แต่มาจากความต้องการที่เรียบง่ายที่สุด การเดินทางของ Airbnb คือการพิสูจน์ว่าเมื่อเราสร้างคุณค่าที่แท้จริงและกล้าที่จะแตกต่าง เราก็สามารถพลิกโฉมโลกใบนี้ได้ในแบบที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน